บางครั้งกระเพาะอาหารอักเสบมาพร้อมกับโรคหัดไข้ผื่นแดงโรคเลือดโรคผิวหนังการขาดวิตามิน นอกจากนี้ความเจ็บป่วยนี้อาจเกิดจากผลกระทบทางกลหรือทางเคมีต่อเยื่อเมือก
การรักษาโรคปากเปื่อยที่บ้านเป็นสิ่งที่จำเป็นเริ่มทันทีที่พบอาการ: ความรุนแรงและความยากลำบากในการรับประทานอาหารการลดลงของเสียงทั่วไปของร่างกาย เด็กอาจมีไข้สูง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ว่าอะไรคือการรักษาโรคปากมดลูกที่บ้าน โรคนี้เป็นที่จดจำได้ง่ายจากลักษณะอาการของโรค: แผลพุพองที่เยื่อเมือกของแก้มและริมฝีปาก
การรักษาโรคปากเปื่อยที่บ้านเป็นแนวทางในการรักษาเพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบเป็นหลัก มีสูตรอาหารยอดนิยมมากมายที่หากทำเป็นประจำจะช่วยกำจัดโรคนี้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อกำจัดปากเปื่อยคุณต้องบ้วนปากบ่อยๆ สิ่งนี้ต้องทำหลังอาหารและในช่วงพัก น้ำร้อนสะอาดธรรมดาหรือสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะทำ
การรักษาโรคปากมดลูกที่บ้านจะลดลงเหลือการหล่อลื่นของเยื่อเมือกด้วย decoctions เงินทุน ตัวอย่างเช่นน้ำว่านหางจระเข้ คุณสามารถเคี้ยวใบของพืชชนิดนี้ได้ หากโรคเพิ่งเริ่มต้นควรใช้ทิงเจอร์โพลิส ขั้นแรกให้บ้วนปากด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และซับให้แห้ง จากนั้นใช้ปิเปตทิงเจอร์โพลิส 50% จะถูกปลูกฝังลงบนเยื่อเมือกและปากจะแห้งอีกครั้งจนเป็นฟิล์ม
วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันคือกระเทียมกับโยเกิร์ตต้องเก็บส่วนผสมนี้ไว้ในปากโดยกระจายไปทั่วเยื่อเมือก ปากจะไหม้ แต่ขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยบรรเทาอาการปากเปื่อยได้อย่างน่าเชื่อถือภายในสองสามวัน วิธีการรักษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วอีกอย่างหนึ่งคือมันฝรั่งดิบฝานเป็นชิ้นที่มีการอักเสบ
แนะนำให้ใช้น้ำแครอทและกะหล่ำปลีสำหรับล้าง
คุณสามารถยืนยันสาโทสมุนไพรเซนต์จอห์นในแอลกอฮอล์ 40% และบ้วนปากด้วยการเจือจาง 40 หยดในน้ำครึ่งแก้ว คุณยังสามารถชง erythematosus ใบแบนในแก้วน้ำแล้วล้างปากด้วยการแช่ ดอกคาโมมายล์ผสมในน้ำ 1 แก้วผสมกับกรดบอริก 4 มก. ช่วยได้มาก สูตรนี้ช่วยลดการอักเสบและลดระยะเวลาในการรักษาได้ดีเยี่ยม
มีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายในการรักษาโรคปากมดลูกที่บ้านแต่จำไว้ว่าหากโรคยังคงมีอยู่คุณต้องรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน! เฉพาะผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะสามารถระบุลักษณะของโรคได้อย่างถูกต้องและกำหนดการรักษาอย่างเพียงพอ