ก่อนที่จะเริ่มเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการสร้างวิหารแห่งการเปลี่ยนแปลงของ Vyborg คณบดีขอพูดถึงบรรพบุรุษของเขา -มหาวิหารลูเธอรันซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อโบสถ์แห่งการประสูติของพระคริสต์ ชะตากรรมของทั้งสองวัดมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นบอกว่าในตอนแรกคริสตจักรออร์โธดอกซ์แห่งแรกในสวีเดนครั้งหนึ่งและเมืองวีบอร์กของฟินแลนด์ในภายหลังปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่กองทัพรัสเซียของปีเตอร์มหาราชพิชิตได้ในปี 1710
ในปี 1350 ไม้นิกายลูเธอรัน เนื่องจากมีสงครามพิชิตอย่างต่อเนื่องกำแพงของมันมักจะถูกทำลายและเมื่อเวลาผ่านไปอาคารก็ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว 1494 มหาวิหารลูเธอรันอันงดงามได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในสถานที่แห่งนี้ซึ่งในระหว่างการปิดล้อมเมืองโดยการปลดทหารของปีเตอร์ที่ 1 ก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเนื่องจากการยิงปืนใหญ่และแทบจะไม่ได้รับการบูรณะ
ผู้อยู่อาศัยในเมือง Vyborg เมื่อสิ้นสุดการเกณฑ์ทหารการดำเนินการยื่นเอกสารไปยังฝ่ายบริหารของกองทัพรัสเซียซึ่งพวกเขาได้เสนอรายชื่ออาคารในเมืองที่ถูกทำลายในระหว่างการต่อสู้ซึ่งพวกเขาต้องการซ่อมแซมและใช้ในอนาคต แต่ซาร์ปีเตอร์ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เขาไม่เห็นศาลเจ้าหลักของเมืองในรายชื่อนี้ - มหาวิหารจากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะรับมันไว้ภายใต้เขตอำนาจศาลของเขาและสร้างโบสถ์ออร์โธดอกซ์ขึ้นในนั้น
ในปี 1720 เขาได้ออกพระราชกฤษฎีกาสำหรับพระเถรเกี่ยวกับการบูรณะมหาวิหารลูเธอรันในอดีตซึ่งจะเปิดโบสถ์แห่งการประสูติของพระคริสต์ ภายนอกอาคารไม่ได้เปลี่ยนไปมีเพียงด้านตะวันออกเท่านั้นที่มีการสร้างสัญลักษณ์และแท่นบูชาสำหรับสักการะบูชา ความยิ่งใหญ่และความมั่งคั่งในอดีตไม่ได้อยู่ในคริสตจักรอีกต่อไปเนื่องจากในตอนแรกมีนักบวชเพียงไม่กี่คน ในฐานะที่เป็นมรดกจากมหาวิหารเก่าเธอมีชามสองใบสำหรับศีลระลึกที่สร้างขึ้นในปี 1651 หีบสมัยเก่าแผ่นเงินที่พระเยซูคริสต์เป็นภาพและพระกิตติคุณปี 1703 ต่อมาในปี 1746 มีโคมไฟระย้าขนาดเล็กปรากฏขึ้นซึ่งนาย Nikita Rusinov ชาวรัสเซียบริจาคให้กับโบสถ์เพื่อระลึกถึงวิญญาณของเขา
หลายปีหลังจากไฟไหม้ครั้งต่อไปคริสตจักรถูกย้ายไปยังโกดังของทหารรักษาการณ์เมื่อถึงเวลานั้นได้มีการตัดสินใจที่จะสร้างวิหารการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ถัดจากนั้น
แต่ลักษณะของวิหารแปลงร่างนำหน้าด้วยเหตุการณ์หนึ่ง ในฤดูร้อนปี 1783 จักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 เสด็จเยือนกษัตริย์กุสตาฟที่ 3 ของสวีเดนอย่างเป็นทางการ ตำแหน่งของผู้ปกครองรัสเซียประกอบด้วยรัฐบุรุษคนสำคัญ - อีอาร์แดชโควา (ประธานสถาบันวิทยาศาสตร์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) และ A. A. Bezborodko (ประธานคณะการต่างประเทศ) ในรถม้ากับ Bezborodko มี N. A. Lvov คนหนึ่งซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ เขาเป็นสถาปนิกช่างแกะสลักช่างเขียนแบบและนักดนตรีในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่มีความสามารถหลากหลายและมีความสามารถ
เขาสร้างแบบร่างตามที่ในภายหลังสร้างวิหารแปลงร่าง ต้องบอกว่าเมือง Vyborg ได้รับการกล่าวถึงในรายงานของเขาต่อ Catherine II โดยผู้ว่าการ VK Engelgardt ในพวกเขาเขาให้การว่าจำเป็นต้องสร้างคริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซียใหม่ในนิคมนี้
เดิมทีอะนาล็อกถูกผลิตซ้ำในภาพวาดการวางผังโดมของพระวิหารตั้งแต่สมัยกรุงโรมโบราณ N. A. Lvov ไปเยือนอิตาลีในช่วงต้นทศวรรษ 1780 จากนั้นทำหน้าที่เป็นผู้แปลผลงานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาสถาปัตยกรรมของสถาปนิกแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา A. Palladio สิ่งนี้มีอิทธิพลอย่างมากต่ออาคารจำนวนมากโดย N. A. Lvov ซึ่งไม่ได้เป็นสถาปนิกที่ได้รับการรับรอง
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2329 รัสเซียออกกฤษฎีกาจักรพรรดินีในการสร้างโบสถ์วิหารออร์โธดอกซ์ใน Vyborg ในปีเดียวกันโยฮันน์บร็อคมันน์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสถาปนิกประจำจังหวัดเข้ามาที่แผนกก่อสร้างของผู้ว่าการรัฐ เขาใช้แบบร่างของ N. A. Lvov โดยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยในการออกแบบสถาปัตยกรรมของโบสถ์เขาเพียงแค่ลดขนาดของโบสถ์ อย่างไรก็ตามภาพวาดเหล่านี้ยังคงถูกเก็บไว้ในหอจดหมายเหตุแห่งรัฐฟินแลนด์
ดังนั้นการก่อสร้างวัดจึงเริ่มขึ้นในรูปแบบดั้งเดิมวิหาร Transfiguration (Vyborg) - รูปถ่ายด้านล่างระบุว่ามีส่วนที่เป็นรูปโดมของอาคารซึ่งมีฝาปิดครึ่งวงกลมและห้องโถงด้านข้างมีรูปทรงลูกบาศก์ ประตูทางเข้าตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของอาคาร
Vasily Fedorov กลายเป็นผู้ปกครองคนแรกของมหาวิหารและในปีพ. ศ. 2347 อัครสังฆราชคนใหม่ของวิหาร Fyodor Loginovsky ได้ส่งรายงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมพระวิหาร ในช่วงต้นฤดูร้อนของปี 1806 พระราชกฤษฎีกาของความสอดคล้องทางจิตวิญญาณทำให้สามารถซ่อมแซมอาคารที่ทรุดโทรมได้ ในปีพ. ศ. 2354 มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับคณะสงฆ์ แต่เงินทุนขาดอยู่ตลอดเวลา แต่ความพากเพียรของนักบวชนำมาซึ่งผลลัพธ์และในปี 1816 วิหารการเปลี่ยนแปลงแห่งวีบอร์กได้รับผลรวมที่ดีจากคณะกรรมการโรงเรียนศาสนศาสตร์ ด้วยเงินจำนวนนี้มหาวิหารจึงได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด
หลังจากปรับปรุงใหม่ก็ยังคงรูปทรงเดิมไว้รูปแบบของไม้กางเขนยาว ในปีพ. ศ. 2360 ในวันที่ 14 กันยายนมหาวิหารแห่งนี้ได้รับการถวายในบรรยากาศที่เคร่งขรึมพร้อมด้วยนักบวชจำนวนมาก ไม้กางเขนทองแดงปิดทองของ S.D ปรมาจารย์แห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก Gusev ถูกสร้างขึ้นเหนือมัน Archpriest F. Loginovsky ได้รับความขอบคุณอย่างสูงสำหรับการดูแลคริสตจักรที่มีประสิทธิผล
ในปีพ. ศ. 2381 มีการโยนระฆังใหม่ซึ่งเป็นของขวัญจากพ่อค้า F.N. Nabilkin งานศิลปะดำเนินการโดยจิตรกรของ Imperial Academy of Arts S.V. Postemsky
ไม่กี่ปีต่อมาเมื่อมีการผลิตการสร้างวิหารการเปลี่ยนแปลงใหม่ในปีพ. ศ. 2432 มีการเพิ่มประตูเมืองเข้าไปในหอระฆัง ในปีพ. ศ. 2435 สังฆมณฑล Vyborg ก่อตั้งขึ้นและมหาวิหารได้รับสถานะเป็นมหาวิหาร ครั้งสุดท้ายได้รับการปรับเปลี่ยนตามภาพวาดของหัวหน้าคนงาน A. Isakson
ในปี 1937 วิหารการเปลี่ยนแปลงได้ฉลองครบรอบ 150 ปีและในปี 1987 ครบรอบ 200 ปี ในปี 2560 วัดจะมีอายุ 230 ปี
คุณสามารถเยี่ยมชมมรดกทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของบรรพบุรุษของเราได้เสมอเช่น Transfiguration Cathedral (Vyborg) ที่อยู่วัด: เซนต์. มหาวิหาร 1.
วัดตั้งอยู่ทางตอนกลางของเมืองเก่าระหว่างถนนป้อมปราการและหอสังเกตการณ์ อาคารเก่าแก่ที่เรียกว่า Round Tower อยู่ห่างออกไปโดยใช้เวลาไม่กี่นาที วัดทำงานทุกวันมีการทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตามกำหนดทั้งหมด ผู้เชื่อคนใดก็ตามที่ได้รับพระหรรษทานอันศักดิ์สิทธิ์จากการช่วยกู้ที่มองไม่เห็นสามารถนำการกลับใจและสารภาพบาปของเขาในวิหารการเปลี่ยนแปลงใน Vyborg
